ตอนที่ 2 การคำนวณหาขนาดของสายไฟฟ้า

ตอนที่ 2 การคำนวณหาขนาดของสายไฟฟ้า

via ตอนที่ 2 การคำนวณหาขนาดของสายไฟฟ้า.

โพสท์ใน Uncategorized | ใส่ความเห็น

โพสท์ใน Uncategorized | ใส่ความเห็น

ประวัติที่มาของ \”ลำปลายมาศ\” ::

ประวัติที่มาของ \”ลำปลายมาศ\” ::

via ประวัติที่มาของ \”ลำปลายมาศ\” ::.

โพสท์ใน Uncategorized | ใส่ความเห็น

เนลสัน โรลิห์ลาห์ลา มันเดลลา (Nelson Mandela)

เนลสัน โรลิห์ลาห์ลา มันเดลลา
(Nelson Mandela)
” The most loves stateman of this country” 

เป็นประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐแอฟริกาใต้คนแรก
ที่ได้รับเลือกตั้งตามกระบวนการทางประชาธิปไตย
ก่อนหน้านี้เป็นนักเคลื่อนไหวตัวยง
เพื่อต่อต้านนโยบายแยกคนต่างผิวออกจากกันในแอฟริกาใต้

จากที่แรกเริ่มเป็นผู้เคลื่อนไหวในทางสันติ
ได้กลายมาเป็นผู้นำกลุ่มกองกำลังติดอาวุธ
และได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมต่อต้านใต้ตินโดยใช้อาวุธ
เช่นการก่อวินาศกรรม

mandela ถูกจำคุกเป็นเวลาทั้งสิ้น 27 ปี
ในฐานะนักโทษการเมือง
เขาได้รับการปล่อยตัวในปีพ.ศ. 2537 

เมื่อเนลสันเป็นผู้นำบริหารประเทศอัฟริกาใต้
เขาได้รับการยกย่อง ด้วยความรักและชื่นชมของคนในประเทศ
ว่าเป็น ” The most loves stateman of this country”
และเป็น  “The symbol of a nation”
หรือเป็น “สัญญลักษณ์แห่งชาติ”

ปัจจุบันเนลสัน  แมนเดลาอายุ จะครบ 90 ปี
ในเดือนกรกฎาคมนี้ (เขาเกิด 18 กค. 2461)

เขามักจะเข้านอนหัวค่ำ ประมาณ 2-3 ทุ่ม
และตื่นนอนตอนตี 4 เป็นกิจวัตร
ตื่นแล้วก็เก็บที่นอนเอง
ซึ่งเขาบอกว่าชินมาตั้งแต่ตอนถูกคุมขัง

แมนเดลาเป็นคนนอบนอมถ่อมตน
และไม่ชอบแต่งสูทแบล็คไท
แต่นิยมสวมเสื้อ “มาคิบา” แบบพื้นเมือง
แม้แต่ตอนไปเยือนทำเนียบขาว
และตอนเฝ้าควีนเอลิซาเบธที่ 2
แห่งอังกฤษ ในงานเลี้ยงแห่งหนึ่ง

เขาจะแต่งชุดสากลผูกเน็คไท
เฉพาะในงานเปิดรัฐสภาและในพิธีการต่างเท่านั้น

ผู้นำประเทศส่วนใหญ่จะต้องมีหน่วยอารักขาห้อมล้อม
จะเดินทางไปไหนต้องมีการเคลียร์พื้นที่ก่อน

ตรงข้ามกับแมนเดลาเขาชอบที่จะไปไหนๆ
โดยไม่ต้องมีคนคุ้มกัน
เขาชอบการเดินทางแบบง่ายๆและรวดเร็ว
จะไม่มีคณะเดินทางมากมาย
ไม่ต้องมีรถตามเป็นขบวนใหญ่โต
อย่างมากก็มีแค่รถนำและรถตามอย่างละคัน
จนผู้คนแทบไม่ทันสังเกตว่าเขาจะไปไหน

แมนเดลาไม่เกาะติดกับอำนาจ
เขาได้รับสิทธิ์ให้เป็นประธานาธิบดีสมัยที่ 2
แต่เขาปฏิเสธ

แมนเดลาไม่ได้ยินดียินร้ายกับการยกย่อง
เขาคิดเสมอว่า ตัวเองเป็นแค่ผู้แทนคนหนึ่งของ ANC
(African National Congress : สมัชชาแห่งชาติอัฟริกา)
 
อุปนิสัยส่วนตัวของแมนเดลา
คือเมื่อมีแขกมาเยี่ยมเยือนที่บ้านพัก
เขาจะแนะนำแขกผู้มาเยือนให้รู้จักกับคนขับรถ คนสวนของเขาด้วย

แม้แต่ชาวบ้านที่ผ่านไปมาหยุดยืนดูเมื่อเห็นแมนเดลา
เดินออกไปส่งแขกตอนขากลับที่ประตูใหญ่
เขาก็จะแนะนำแขกของเขาให้รู้จักด้วย
ว่า “นี่คือพระราชาธิบดีนั่น หรือประธานาธิบดีนี่ ..
มิตรของผมเอง”

เนลสัน แมนเดลากับภรรยา
ในอิริยาบถสบายๆ

เพราะเขาเป็นคนที่มีบุคคลิคที่เรียบง่าย
ไม่วางฟอร์ม เขาจึงมักมีเรื่องโจ๊กมาเล่าเสมอว่า
เขามักจะถูกถามว่าเขาเป็นใคร ทำงานอะไร

นโยบายประสานไมตรีที่เนลสันได้นำมาใช้
ทำให้แอฟริกาใต้ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่้แห่งประชาธิปไตย
ซึ่งนับเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ ที่ชาวแอฟริกาใต้ส่วนใหญ่เชื่อว่า
เกิดขึ้นได้เพราะอิทธิพลจากเนลสัน

โพสท์ใน Uncategorized | ใส่ความเห็น

ชะตากรรมของนักการเมืองตัวโกงที่ยิ่งใหญ่ของโลกในปัจจุบัน

ชะตากรรมของนักการเมืองตัวโกงที่ยิ่งใหญ่ของโลกในปัจจุบัน โดย เขียน ธีระวิทย์ 17 มีนาคม 2553 16:48 น. โดย…เขียน ธีระวิทย์ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เราได้เห็นนักการเมืองที่เก่งกาจในการโกงระดับโลกประสบชะตากรรมแตกต่างกันไป 1. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทย ที่มีคนรักและชังมากที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย ซึ่งอยู่ในตำแหน่งตั้งแต่ 17 กุมภาพันธ์ 2001 จนถึง 19 กันยายน 2006 และหนีคุกไปตั้งฐานปฏิบัติการป่วนบ้านเมืองอยู่ที่ในดูไบ ได้ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาจำคุก 2 ปี โทษฐานใช้อำนาจโดยมิชอบด้วยกฎหมายในกรณี “ที่ดินรัชดาฯ” เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2010 ศาลฎีกาฯ มีคำพิพากษาให้ยึดทรัพย์ของทักษิณเป็นเงิน 46,373,687,454.70 บาท พร้อมด้วยดอกผล โทษฐานร่ำรวยผิดปกติ (คอร์รัปชัน) ในขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี องค์คณะผู้พิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองทั้ง 9 คน มีมติเป็นเอกฉันท์ว่า ทักษิณได้ทำผิดจริงในการซุกหุ้นโดยใช้ชื่อลูก เครือญาติ บริษัทแอมเพิลริชและบริษัทวินมาร์ค และได้พิพากษาโดยเสียงข้างมาก 7 ต่อ 2 ให้ยึดทรัพย์ที่อายัดไว้แล้วจำนวน 46,373,687,454.70 บาท จากทั้งหมด 76,621,603,061.05 บาท (เสียงข้างน้อย 2 เสียงต้องการให้ยึดทั้งหมด) มีข้อน่าสังเกตว่า คำร้องขอและคำตัดสินคดีนี้ ไม่ได้พูดถึงการร่ำรวยผิดปกติที่ทักษิณได้จากแหล่งอื่นๆ อีกมากมาย ที่ไม่เกี่ยวกับหุ้นบริษัทในเครือชินคอร์ป ขณะนี้ทักษิณมีหมายจับในคดีอาญาอยู่อีก 2 คดี เข้าใจว่าเรื่องอื่นๆ ที่ค้างอยู่ในกระบวนการยุติธรรรม และข้อเท็จจริงที่ปรากฏในคำพิพากษาของศาลฎีกาฯ ครั้งนี้ จะมีผลทำให้ทักษิณต้องถูกฟ้องในข้อหาคดีอาญาและคดีแพ่งอีกไม่ต่ำกว่า 10 คดี ซึ่งจะมีโทษจำคุกไม่ต่ำกว่า 10 ปี และต้องชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่งอีกไม่ต่ำกว่า 3 เท่าของจำนวนเงินที่ศาลสั่งให้คืนไป 3 หมื่นกว่าล้านบาท คนพันธุ์ทักษิณที่เทิดทูนบูชาทักษิณว่าเป็นคนเก่งและฉลาด ถ้ามีการเลือกตั้งใหม่ในประเทศไทย และยกเลิกความผิดทั้งหมดที่ทักษิณได้ทำไปแล้ว ทักษิณอาจได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีก ตามมาตรฐานของคนที่ไม่รู้ว่าอะไรผิดอะไรถูก พวกเขาคงต้องรักและบูชาตัวโกงระดับโลกที่ฉลาดและเก่งแบบทักษิณอีก 3 คน คือ Silvio Berlusconi, Alberto Fujimori และเฉิน สุยเปี่ยน 2. เบอร์ลูซโคนี มีมาดในการทำงานโฉ่งฉ่างอื้อฉาว ทำนองเดียวกับทักษิณ และเป็นนายกรัฐมนตรีของอิตาลีอยู่นานที่สุดในยุคปัจจุบัน คือ เป็นถึง 3 สมัย ช่วงปี 1994-1995, 2001-2006 และ 2008-ปัจจุบัน เบอร์ลูซโคนีเป็นนายกรัฐมนตรีอิตาลีที่มีคนรักคนชังมากเกือบเท่าทักษิณของไทย มีพื้นเพเป็นนักธุรกิจเช่นเดียวกับทักษิณ เก่งในการใช้เทคโนโลยี-โทรคมนาคมและการสื่อสาร สร้างภาพของตนจากคนชั่วให้เป็นคนดี การใช้อำนาจเผด็จการมาเฟียให้เป็นประชาธิปไตยของผู้ยากไร้ และรู้จักวิธีการโกงกินแบบไม่ให้คนเห็นทำนองเดียวกับทักษิณ เบอร์ลูซโคนี เป็นนายกรัฐมนตรีอิตาลีที่ถูกฟ้องคดีอาญามากที่สุดในประวัติศาสตร์ของอิตาลี มีข้อหาสมคบกับมาเฟียมิจฉาชีพ สร้างหลักฐานปลอมในทางธุรกิจ หนีภาษี ให้สินบนตำรวจและผู้พิพากษา ในฐานะผู้นำรัฐบาลที่มีเสียงข้างมาก เบอร์ลูซโคนีได้ใช้วิธีการออกกฎหมายลบล้างโทษของตนเอง และเตะถ่วงคดีให้หมดอายุความ ฯลฯ ขณะนี้เขายังมีคดีค้างอยู่ในศาลอีกเป็นจำนวนมาก แต่เบอร์ลูซโคนีเก่งกว่าทักษิณที่ยังมีอำนาจและลอยนวลอยู่นอกคุก แต่จะมีชะตากรรมต้องถูกจองจำอยู่ในเรือนจำ หรือลี้ภัยอยู่ต่างประเทศหลังจากหมดอำนาจหรือไม่ ยังไม่มีใครทราบ 3. ฟูจิโมริ เป็นประธานาธิบดีเปรู ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 1990 ถึงเดือนพฤศจิกายน 2000 ครั้งหนึ่งเคยเป็นประธานาธิบดีขวัญใจของชาวเปรู มีชื่อเสียงในการปราบผู้ก่อการร้าย (เหมือนทักษิณที่มีชื่อเสียงในการปราบปรามยาเสพติด) และนำเอานโยบายเศรษฐกิจแบบประชานิยมมาใช้เหมือนกับทักษิณ เมื่ออยู่ในอำนาจนานเข้า ก็เริ่มถูกต่อต้านจากพวกต่อต้านเผด็จการและคอร์รัปชันว่า เป็นผู้นำเผด็จการที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนและยักยอกเงินหลวง ทำให้เปรูปั่นป่วนเพราะความขัดแย้งกันภายในระหว่างฝ่ายนิยมฟูจิโมริและฝ่ายต่อต้าน ผู้สนับสนุนเชื่อว่าถ้ามีการเลือกตั้งใหม่โดยให้ฟูจิโมริลงสนามแข่งขันอีก เขาจะต้องชนะแน่ ในที่สุดฟูจิโมริถูกบีบคั้นอย่างหนักจากรัฐสภาที่ต้องการถอดถอน จนทำให้ต้องลี้ภัยไปอยู่ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของต้นตระกูลในปี 2000 ท่านเชื่อในพลังประชาชนที่สนับสนุนตนอีกทั้งอยากหาลู่ทางกลับไปมีอำนาจในเปรูอีก ในขณะที่ไปอาศัยอยู่ในประเทศชิลีเพื่อนบ้านของเปรู ก็ถูกจับกุมในเดือนพฤศจิกายน 2005 และถูกส่งตัวไปยังเปรูในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนเมื่อเดือนกันยายน 2007 ในเดือนธันวาคมปีเดียวกัน เขาถูกศาลเปรูตัดสินจำคุก 6 ปี โทษฐานใช้อำนาจโดยมิชอบ สั่งค้นบ้านและยึดทรัพย์ผู้คนโดยผิดกฎหมาย ในเดือนเมษายน 2009 เขาถูกศาลลงโทษจำคุก 25 ปี ฐานละเมิดสิทธิมนุษยชน คือสั่งอุ้ม ลักพาตัว ฆ่า ผู้ต้องหาขบวนการฝ่ายซ้ายที่ต่อต้านรัฐบาล ทำนองเดียวกับที่รัฐบาลทักษิณปฏิบัติต่อนักกฎหมายนายสมชาย นีละไพจิตร และกรณียิงถล่มมัสยิดกรือเซะ นอกจากนั้นเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2009 ศาลเปรูได้ตัดสินเพิ่มโทษฟูจิโมริที่มีอยู่แล้วอีก 7 ปี 6 เดือน สำหรับโทษฐานยักยอกเงินของรัฐเป็นเงิน 15 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับให้สินบนหัวหน้าหน่วยสืบราชการลับของเปรู ปัจจุบันนี้ ผู้สนับสนุนท่านได้สงบสติอารมณ์ยอมรับอำนาจศาลด้วยดีแล้ว 4. เฉิน สุยเปี่ยน เป็นประธานาธิบดีไต้หวันสองสมัย (2000-2008) ท่านเป็นแชมเปี้ยนของไต้หวันผู้นิยมเรียกร้องให้ไต้หวันเป็นเอกราชจากจีนปักกิ่ง กล่าวกันว่าถ้าเขามีสิทธิลงสมัครเลือกตั้งประธานาธิบดีสมัยที่ 3 ได้ ก็คงจะได้รับเลือกตั้งอีก แต่ก็มาถูกกล่าวหาว่ายักยอกเงินหลวงและคอร์รัปชัน อันเป็นข่าวอื้อฉาวมาตั้งแต่สมัยที่ยังดำรงตำแหน่งอยู่แล้ว เฉิน สุยเปี่ยน ถูกจับในข้อหาดังกล่าวเมื่อพ้นจากตำแหน่งประธานาธิบดีไม่นาน ไม่เหมือนกับศาลไทย ศาลไต้หวันไม่ยอมให้เขาได้รับการประกันตัวในระหว่างการดำเนินคดี โดยศาลได้อธิบายว่ากลัวผู้ต้องหาจะหลบหนีออกนอกประเทศ เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2009 เฉินถูกศาลอาญาชั้นต้นลงโทษจำคุกตลอดชีวิต และปรับเป็นเงิน 200 ล้านเหรียญไต้หวัน (ประมาณ 180 ล้านบาท) โทษฐานยักยอก รับสินบน และฟอกเงิน มูลค่ารวม 15 ล้านเหรียญสหรัฐ ในระหว่างการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี (เทียบกับพฤติกรรมของทักษิณแล้วต้องเรียกว่าเล็กน้อยมาก) ผู้สนับสนุนเฉินในไต้หวันก็เช่นเดียวกับผู้สนับสนุนทักษิณในไทย กล่าวหาศาลว่าถูกบงการจากรัฐบาลซึ่งเป็นศัตรูทางการเมือง แต่ศาลไต้หวันไม่สะทกสะท้าน ล่าสุดเมื่อเขาพยายามสื่อสารให้ผู้สนับสนุนช่วยกันเคลื่อนไหวบีบคั้นศาล เพียงเพื่อขอประกันตัวออกไปจากเรือนจำเพื่อฉลองตรุษจีน เมื่อวันที่ 13-14 กุมภาพันธ์ 2010 ก็ไม่ได้ผล มีผู้ตอบสนองเบาบางและศาลก็ยังคงยืนกรานไม่ยอมให้ประกันตัว เพราะกลัวหลบหนีออกนอกประเทศ ถ้าศาลไทยได้ทำหน้าที่แข็งขันดังศาลไต้หวัน ทักษิณและนักการเมืองขี้โกงอีกหลายคน ก็คงต้องถูกนำตัวไปสงบสติอารมณ์ ในห้องขังเรียบร้อยแล้ว ในกรณีของเฉิน สุยเปี่ยนนี้ ปรากฏว่าศาลได้ตัดสินลงโทษจำคุกภรรยาอดีตสตรีหมายเลข 1 (อู๋ซู่เจิน) เป็นเวลา 9 เดือน บุตรชาย (เฉินจื้อจง) บุตรสาว (เฉินซิงหยู) และบุตรเขย) (จ้าว เฉียนหมิง) คนละ 3 เดือนด้วย โทษฐานให้การเท็จต่อเจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรม สำหรับของไทย เราต้องติดตามดูกันต่อไปว่า รัฐบาลไทยจะสามารถนำตัวทักษิณมาควบคุมไว้ในเรือนจำไทยดังเช่นรัฐบาลเปรูได้ดำเนินการกับฟูจิโมริหรือไม่ ทักษิณจะต้องโทษจำคุกตลอดชีวิตดัง เฉิน สุยเปี่ยนหรือไม่ เครือญาติและคนสนิทของทักษิณจำนวนมากที่ให้การเท็จต่อเจ้าพนักงานสอบสวนและศาลจะต้องรับโทษจำคุกเหมือนคนของอดีตประธานาธิบดีเฉิน สุยเปี่ยน หรือไม่

โพสท์ใน Uncategorized | ใส่ความเห็น

“มทภ.2”ยันไม่เสริมทหารชายแดน“ตาเมือนธม”- ชี้เขมรเคลื่อนกำลัง เหตุใกล้จุดจับ 7 ไทย

   

 

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา

– “มทภ. 2″ ยันไม่เสริมกำลังทหารชายแดนไทยกัมพูชา ด้านปราสาทตาเมือนธมเพิ่มอีก ระบุสถานการณ์ยังปกติ ส่วนฝ่ายกัมพูชาเคลื่อนกำลังเป็นเรื่องปกติเหตุชายแดนติดกับบริเวณจับกุม 7 คนไทย วอนแกนนำมวลชนโดยเฉพาะอดีตทหารผู้รักชาติ อย่าเคลื่อนไหวนำข้อมูลไม่ถูกต้องไปปลุกระดมมวลชน ชี้ให้เป็นกระบวนการของศาลกัมพูชา ระบุทุกประเทศควรให้เกียรติซึ่งกันและกันเพื่อความสงบสุขของประชาชน 2 ประเทศ

 

วันนี้(8 ..) พล..ธวัชชัย2 เปิดเผยถึงสถานการณ์ความเคลื่อนไหวของกำลังทหารกัมพูชาที่บริเวณชายแดนไทยกัมพูชาด้านปราสาทตาเมือนธม .พนมดงรัก .สุรินทร์ ว่า สถานการณ์โดยทั่วไปที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม ในขณะนี้เป็นปกติไม่มีเหตุความรุนแรงเกิดขึ้นแต่อย่างใด และประชาชนทั้ง 2 ประเทศ ยังเข้าเที่ยวชมปราสาทตาเมือนธมได้ตามปกติ ส่วนกรณีที่ทางทหารกัมพูชามีการเพิ่มกำลังตามแนวชายแดนนั้นถือ เป็นเรื่องปกติ เนื่องจากพื้นที่ปราสาทตาเมือนธมมีพื้นที่ติดกับบริเวณที่คนไทย 7 คนถูกทหารกัมพูชาจับตัวไปดำเนินคดี อย่างไรก็ตาม

ในส่วนของกองทัพภาคที่อย่างไรก็ตามยืนยันว่าสถานการณ์ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธมยังปกติไม่มีการสั่งเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ทหารและประชาชนทั้งสองประเทศยังคงเข้ามาท่องเที่ยวได้ตามปกติ

 

ต่อข้อถามกรณีที่กัมพูชาจับกุม 7 คนไทยไปนั้นหลายฝ่ายเกรงว่าจะเกิดความรุนแรงบานปลายขึ้นในพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา

พล เช่นเดียวกันกับศาลในประเทศไทยเข้าก็ละเมิดไม่ได้ ดังนั้นเมื่อมีคำตัดสินของศาลแล้วทางกระทรวงการต่างประเทศจะเข้าหารือกับรัฐบาลกัมพูชาเพื่อทำเรื่องขอตัวคนไทยทั้ง 7 คนกลับมา แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับกระบวนการตามกฎหมาย

 

อย่างไรก็ตามอยากฝากไปยังกลุ่มบุคคลคนที่เคลื่อนไหวเพื่อกดดันในแต่ละพื้นที่ ว่า อย่าเอาความคิดตนเองเป็นใหญ่ควรที่จะมีการรับฟังข้อมูลจากฝ่ายอื่น ซึ่งบางเรื่องผู้ที่นำชาวบ้านออกมาเคลื่อนไหวก็ไม่มีความรู้ที่แท้จริงว่าเป็นมาอย่างไร ซึ่งจริงๆ แล้วเรื่องที่เกิดขึ้นกับคนไทยทั้ง 7 คน ได้มีเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาดูแลอยู่แล้ว ซึ่งตนอยากขอร้องให้ผู้ที่เคยเป็นทหารเก่าที่มีความรักชาติสูงด้วย ข้อมูลต่าง สามารถเข้ามาสอบถามกับตนได้ ไม่ใช่นำข้อมูลบางส่วนที่ได้รับกลับไปคิดเองแล้วนำประชาชนออกมาเคลื่อนไหวถ้าเป็นเช่นนี้จะทำให้มองเห็นความเสียหายที่เป็นภาพรวม ไม่ว่าจะเป็นภาพรวมของทหาร หรือภาพรวมของประเทศ ซึ่งปัจจุบันนี้ต้องยอมรับว่าการสื่อสาร ภายใน 2 วินาที ประชาชนทั่วโลกสามารถรับรู้ข้อมูลได้ทุกอย่าง ดังนั้นบางสิ่งบางอย่างที่ผู้นำที่นำประชาชนออกมาเคลื่อนไหวคิดผิดไปและเมื่อมีการนำเสนอออกไป ก็ไม่สามารถที่จะมาแก้ไขได้ ยิ่งจะส่งกระทบต่อด้านเศรษฐกิจและการลงทุนเป็นอย่างมาก

 

พล..ธวัชชัย กล่าวอีกว่า การเคลื่อนไหวตามแนวชายแดนด้าน .สระแก้ว ของบางกลุ่มจะไม่ส่งผลกระทบต่อชายแดนทางภาคอีสานอย่างแน่นอนเนื่องจากทางกองทัพภาคที่2 ได้มีการประสานกับผู้นำทหารของกัมพูชาอยู่ตลลอด แต่ต้องยอมรับว่ามีสื่อมวลชนบางสำนักที่มีการต่อว่าข้ามประเทศซึ่งฝ่ายกัมพูชาก็รับฟังข่าวสารจากทางประเทศไทยอยู่ตลอดเวลา ก็เหมือนประเทศเราหากใครมาต่อว่าเราหรือสถาบันที่เราเคารพนับถือเราก็ต้องมีปฏิกิริยาเหมือนกัน

 

ฉะนั้นจึงขอร้องให้สื่อบางสำนักได้ให้เกียรติซึ่งกันและกัน การที่เป็นประเทศเล็กหรือประเทศใหญ่ก็มีศักดิ์ศรีเช่นกัน ดังนั้นการทำอะไรก็ควรให้เกียรติซึ่งกันและกันเพื่อความสุขของประชาชนทั้งสองประเทศ” พล..ธวัชชัย กล่าว


 

 

 ..ธวัชชัย2 ประเทศอย่างแน่นอน2 ที่ดูแลพื้นชายแดนดังกล่าวไม่ได้มีการเพิ่มกำลังเข้าไปแต่อย่างใด

โพสท์ใน Uncategorized | ใส่ความเห็น

โพสท์ใน Uncategorized | ใส่ความเห็น

ฮิตเลอร์..เป็น”ยิว”

หน้าหลัก นสพ.ฉบับวันนี้ บริการบนมือถือ ร่วมงานกับไทยรัฐ สมัครสมาชิก เข้าสู่ระบบ เข้าสู่ระบบ อีเมล์ รหัสผ่าน ลืมรหัสผ่าน? ออกจากระบบ ยินดีต้อนรับ ไทยรัฐออนไลน์วันจันทร์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ.2554 ค้นหาข่าวการเมืองกีฬาบันเทิงไลฟ์สไตล์วิทยาการเศรษฐกิจการศึกษาต่างประเทศภูมิภาคอื่นๆกิจกรรมGallery v People c สังคม-สตรีอาหารและสุขภาพยานยนต์ท่องเที่ยวคอลัมน์ไลฟ์สไตล์การ์ตูนFacebook Twitter March 7, 2011, 3:11am ฮิตเลอร์..เป็น”ยิว” ในบรรดาชนชาติที่น่าสงสารมากที่สุดชนชาติหนึ่งคือ “ยิว” ไม่ว่าไปที่ไหน ไม่ว่าอยู่ที่ไหน “ยิว” เป็นที่เกลียดชังไปทั่ว เพราะเชื่อฝังหัวกันมานานว่า ยิวเป็นพวกพ่อค้าหน้าเลือด ทำการค้าแบบตัวเองรวยเอ๊า…รวยเอา…แต่คนรอบข้างจนลงเรื่อยๆ หรือบางคนก็เล่นย้อนไปไกลในหน้าประวัติศาสตร์เลยว่า ยิวเป็นพวกที่ทรยศ และต่อต้านพระเยซูเจ้า โดยลืมนึกไปว่า พระคริสต์เองก็เป็นยิวเหมือนกัน ฮิตเลอร์ในมาดใจดีรักเด็ก. แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลใดก็แล้วแต่ เราก็รู้กันทั่วไปว่า คนจำนวนมากในโลกนี้เกลียดยิว และในบรรดาคนที่เกลียดยิวเข้ากระดูก เห็นทีจะไม่มีใครเกิน อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ อดีตผู้นำเยอรมนี ที่มีส่วนพัวพันในการสังหารโหดชาวยิวไปราวๆ 6 ล้านชีวิต ในช่วงก่อนที่ฮิตเลอร์จะเรืองอำนาจนั้น เศรษฐกิจเยอรมนีซบเซา ผู้คนตกงานกันเป็นจำนวนมาก แล้วพวกยิวต่างถิ่นที่ไม่รู้มาจากไหน ไม่ใช่ชาวเยอรมันอันสูงส่ง ดั๊น…มีความสามารถในการทำมาหากินจนเป็นเศรษฐี ทำให้ฮิตเลอร์ กล่อมคนเยอรมันทั้งหลายว่า ก็เพราะยิวนี่แหละ ที่ทำให้เยอรมันทั้งชาติยากจน ค่ายนรกเอาชวิตซ์ที่ใช้กักกัน ทรมาน และสังหารชาวยิว. แล้วอย่างนี้ จะไม่ให้เกลียดยิวได้ยังไงไหว ไม่เพียงเท่านั้น ฮิตเลอร์ยังพยายามป่าว ประกาศในทำนองที่ว่า ยิวไม่ใช่คน ไม่ใช่ผู้เจริญแล้ว ยิวก็เป็นเพียงคนครึ่งมนุษย์ เพราะฉะนั้นจะฆ่าเล่น ฆ่าทิ้ง ยิงขว้างไปสักเท่าไหร่ ก็ไม่ เป็นไรหรอก แต่ผลการศึกษาวิจัยล่าสุด อาจทำให้หลายคนสะอึก รวมทั้งฮิตเลอร์เอง ถ้าฟื้นจากหลุมมาได้คงสะดุ้งไปมากกว่า 8 ตลบ พลพรรคนาซีและประชาชนรอต้อนรับท่านผู้นำ. เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ฌอง ปอล มุลเดอร์ส สื่อมวลชนชาวเบลเยียม และมาร์ก แวร์เมรัน นักประวัติศาสตร์ ได้เปิดเผยผลการวิจัยว่า พวกเขาได้เพียรพยายามหาดีเอ็นเอจากบรรดาญาติๆที่เหลืออยู่ของฮิตเลอร์ จนได้ดีเอ็นเอมาคนละนิดละหน่อย เพื่อจะสืบสาวราวเรื่องไปหาต้นตอบรรพบุรุษของฮิตเลอร์ ผลที่ออกมาพบว่า อดีตผู้นำนาซีกระฉ่อนโลกคนนี้ สืบเชื้อสายมาจาก “ยิว” ดีเอ็นเอที่ค่อนข้างชัดเจนมาจากนํ้าลายของนอร์เบิร์ต เอช ลูกพี่ลูกน้องของฮิตเลอร์ ซึ่งตอนนี้ทำอาชีพเกษตรกรอยู่ รวมถึงดีเอ็นเอของญาติอดีตผู้นำนาซีคนอื่นๆ ด้วย พบว่าโครโมโซมวายในนํ้าลายของญาติฮิตเลอร์เหล่านี้ เป็นโครโมโซมแบบที่น่าจะฟันธงได้ว่า สืบเชื้อสายมาจากยิว อลัวส์ บิดาของฮิตเลอร์. ไม่เพียงเท่านั้น ก่อนหน้านี้นักประวัติศาสตร์หลายคนก็เคยเสนอแนวคิดแบบที่ไม่ต้องไปขอนํ้าลาย หรือไม่ต้องไปตรวจดีเอ็นเอสืบเชื้อ สายกันให้วุ่นวาย แต่ยังไงๆฮิตเลอร์ก็เป็นยิวแน่ๆ นั่นก็เพราะว่า พ่อของฮิตเลอร์มีความเป็นมาที่คลุมเครือ เชื่อกันว่า อลัวส์ (Alois) พ่อของอดีตผู้นำหนวดจิ๋ม เป็นลูกชายนอกกฎหมายของแม่บ้านที่ชื่อ มาเรีย ชิกเกลกรูเบอร์ (Maria Schicklgruber) กับใครสักคนในตระกูลแฟรงเกนเบอร์เกอร์ (Frankenberger) เพราะก่อนหน้าที่อลัวส์จะถือกำเนิดขึ้น มาเรียได้เข้าไปทำงานเป็นแม่บ้านในครอบครัวแฟรงเกนเบอร์เกอร์ ซึ่งเป็นตระกูลชาวยิวที่รํ่ารวยแห่งเมืองกราซ (Graz) และจู่ๆมาเรียก็เกิด “ป่อง” ขึ้น ชาวยิวจำนวนมหาศาลถูกสังหารโหดเพียงเพราะ ฮิตเลอร์เกลียด. ในครอบครัวแฟรงเกนเบอร์เกอร์นั้น มีลูกชายวัยรุ่นอายุ 19 อยู่คนหนึ่ง ในขณะที่มาเรียปาเข้าไป 42 ปีแล้ว แต่ก็ลือกันว่าเกิดความสัมพันธ์ระหว่างหนุ่มละอ่อนชาวยิวกับแม่บ้านวัยกลางคน และอาจจะเป็นด้วยเหตุผลหลายอย่าง เช่น ความแตกต่างของวัย ฐานะทางชนชั้น พ่อหนุ่มไม่รับผิดชอบ หรือผู้นำตระกูลแฟรงเกนเบอร์เกอร์อาจไม่เห็นพ้อง หรือไม่รับรู้ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็แล้วแต่ สิ่งที่เกิดขึ้นแน่ๆก็คือ อลัวส์ถือกำเนิดมาจากมาเรีย ในสถานะบุตรนอกสมรส ที่ไม่มีแม้แต่การระบุชื่อบิดาในใบเกิด อันที่จริงประวัติของอลัวส์ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ในตอนที่ฮิตเลอร์เรืองอำนาจเอง ญาติบางคนของท่านผู้นำก็เคยพยายามเปิดเผยข้อมูลนี้ต่อสาธารณชนมาก่อนแล้ว แต่ฮิตเลอร์ “ปิด” เรื่องให้เงียบลงได้โดยพลัน แล้วก็ป่าวประกาศว่า ตัวข้านี้แหละ เป็น “อารยัน” สายเลือดบริสุทธิ์ของผู้เจริญแล้ว ผู้นำที่ยิ่งใหญ่ตลอดกาลของพลพรรคนาซี. แต่หากจะให้ฟันธงแบบโป๊ะเชะ ก็เห็นทีจะตอบยาก เพราะต้องเอาศพหรือส่วนที่เหลือของฮิตเลอร์มาสกัดดีเอ็นเอ แต่ก็ไม่มีใครสามารถทำอย่างนั้นได้ เพราะแม้จะมีความเชื่อกันว่า หลังจากรู้ตัวแน่ว่าเป็นผู้แพ้ในสงคราม โลกครั้งที่ 2 ฮิตเลอร์ก็ตัดสินใจลั่นไกกระสุนกรอกปากตัวเอง ในหลุมหลบภัยที่กรุงเบอร์ลิน พร้อมๆกับเจ้าสาวคืนเดียว อีวา บราวน์ ที่ดื่มยาพิษให้สิ้นลม แต่เอาเข้าจริงๆก็ไม่มีใครเจอะเจอศพของอดีตผู้นำนาซีคนนี้ ที่สั่งให้คนสนิทเผาศพให้สิ้นซาก จะได้ไม่มีใครเอาไปปู้ยี่ปู้ยำ หลายปีต่อมา มีการค้นพบเศษกะโหลกศีรษะที่เชื่อกันว่าเป็นของฮิตเลอร์ แต่ ข่าวล่าสุดก็บอกว่า มีการพิสูจน์แล้วว่า ไม่ใช่ เรื่องราวการตายของฮิตเลอร์ก็เลยยังเป็นปริศนาว่า ตายจริงหรือลิงหลอกเจ้า ย้อนไปที่เรื่องข้อสรุปว่าฮิตเลอร์เป็นยิวอีกหน หากเรื่องนี้เป็นจริง ก็คงต้องมองกันใน 2 แง่ว่า ฮิตเลอร์ “รู้” หรือ “ไม่รู้” หากไม่รู้ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ฮิตเลอร์จะเกลียดยิว เพราะดังได้กล่าวมาแล้วว่า คนจำนวนมากทั่วโลก โดยเฉพาะพวกยุโรปนั้นไม่ชอบยิว ไม่ว่ายิวทำอะไรก็ผิดไปหมด การกระทำ ของฮิตเลอร์เป็นเรื่องโหดผิดมนุษย์มนา และควรประณามอย่างยิ่ง แต่หากยิ่งเป็นกรณีฮิตเลอร์รู้ตัวอยู่ก่อนแล้วว่า ตัวเองมีเชื้อสายเป็นยิว คำว่าโหดร้ายก็ยังน้อยไป สำหรับคนที่สั่งการสังหารโหดคนเชื้อชาติเดียวกับตัวเองหลายล้านคนได้อย่าง เลือดเย็น และก็มีความเป็นไปได้ว่า พี่หนวดอาจจะรู้อยู่เหมือนกันว่าตัวเป็นยิว เพราะพ่อก็น่าจะบอกเล่าให้ฮิตเลอร์ได้รู้เบื้องหลังชีวิตของตัวเองอยู่บ้าง ซึ่งเหตุที่ท่านผู้นำเกลียดยิว เพราะเกลียดปู่ของตัวเองที่ไม่รับผิดชอบ ปล่อยให้คุณย่าทนลำบากเลี้ยงลูก ซึ่งต่อมาคือบิดาของฮิตเลอร์มาเพียงลำพัง ในขณะที่นางเองก็อายุเยอะแล้ว ทำให้ ฐานะครอบครัวของฮิตเลอร์เองก็ไม่สู้ดีนัก ฮิตเลอร์วัยแบเบาะ. ในขณะที่ตระกูลแฟรงเกนเบอร์เกอร์ ซึ่งอาจจะเป็นต้นตระกูล ที่แท้จริงของฮิตเลอร์ กลับรํ่ารวย มีฐานะดี แบบชาวยิวที่อยู่ที่ไหนก็เป็นเศรษฐี แน่นอนว่าถ้าฮิตเลอร์รู้มาตลอดว่า ตัวเองเป็นทายาทของแฟรงเกนเบอร์เกอร์ที่รํ่ารวย แต่อลัวส์ พ่อของฮิตเลอร์ ก็เป็นได้เพียงช่างเย็บรองเท้า ที่แม้กาลต่อมาได้ ตำแหน่งหน้าที่เข้ารับราชการเป็นเจ้าหน้าที่ศุลกากร ก็ไม่ได้ทำให้ฐานะครอบครัวของฮิตเลอร์ดีขึ้น เพราะอลัวส์ผู้บิดาชิงลาโลกไปตั้งแต่ฮิตเลอร์อายุได้เพียง 12 ปี ส่วนผู้เป็นมารดาคือ คลาราก็ตามสามีไปในอีก 4 ปีต่อมา ทิ้งให้ฮิตเลอร์ ในวัยรุ่นอายุเพียง 16 ปี อยู่สู้โลกเพียงลำพัง และหากในตอนนั้น ตระกูลแฟรงเกนเบอร์เกอร์ยังรุ่มรวยอยู่ ก็ไม่น่าแปลกใจที่จะทำให้ ฮิตเลอร์เกลียดปู่เข้าไส้ และเกลียดยิวเข้ากระดูก!! มีอีกเรื่องหนึ่งของฮิตเลอร์ ที่จะไม่เล่าก็คงไม่ได้ นั่นคือ คนส่วนมากเข้าใจว่า ฮิตเลอร์เป็นชาวเยอรมัน เพราะพี่หนวดจิ๋มได้เป็นผู้นำพรรคนาซีของเยอรมนี แต่ฮิตเลอร์กลับไม่ใช่เยอรมันแท้ๆ ฮิตเลอร์เกิดที่บรอนอ (Braunau) ซึ่งอยู่บริเวณชายแดนออสเตรีย-ฮังการี เมื่อวันที่ 20 เมษายน ค.ศ.1889 และได้สัญชาติเป็นชาวออสเตรียมาตั้งแต่เกิด แต่ฮิตเลอร์ถือสัญชาติออสเตรียได้ถึงแค่วันที่ 7 เมษายน ค.ศ.1925 คือเกือบๆ 36 ปี หลังจากนั้นไม่นานก็ย้ายสำมะโนครัวไปอยู่เยอรมนี และได้สัญชาติเยอรมัน ในปี 1932 และก็ต้องถือว่าเก่งทีเดียว จากหนุ่มต่างบ้านต่างเมือง กลายมาเป็นผู้นำสูงสุดของเยอรมนี เป็นผู้นำนาซีที่คนทั้งโลกยากจะลืมเลือน… ทีมงานต่วย’ตูน ไทยรัฐออนไลน์ โดย ทีมงาน ต่วย’ตูน 6 มีนาคม 2554, 00:03 น. เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง 479 ข่าว ไม่มีรูปภาพที่เกี่ยวข้อง 1 คน tags: ซันเดย์สเปเชียล ทีมงาน ต่วยตูน ฮิตเลอร์ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ เยอรมัน ยิว คุณชอบข่าวนี้หรือไม่ ชอบ ไม่ชอบผลการโหวตชอบ5 คน100.0%ไม่ชอบ0 คน0.0% โฆษณาโดย Google โนเกีย X2 Qwerty ใหม่ สนุกกับการแชทด้วยแป้นพิมพ์ Qwerty สีสันสดใสให้เลือกมากมาย ดูที่นี่! Nokia.co.th/X2Qwertyคอลัมน์อื่น ๆ ใน ซันเดย์สเปเชียลต่วยตูน วินาศกรรมพิพิธภัณฑ์ไคโร ประวัติศาสตร์ที่ทำร้ายประวัติศาสตร์สัญลักษณ์สื่อรัก เปิดรหัสลับดาวินชี เผย “ตัวจริง” โมนาลิซา ข่าวอื่นๆ ในไลฟ์สไตล์ Rate R Music Shop มุมซีดีสุดชิค ของค…เปิดตัวChef-chanel วาไรตี้อาหารครบว…The secret garden เทรนด์สะพายสุด…ข่าวร้อน’สังคมได้โปรดฟังเราบ้าง…’ เปิดหัวอกแม่…ปาท่องโก๋ ขนมจากความเคียดแค้นห่วงข่าว ‘จิ๋มเอื้ออาทร’ เด็กเลียนแบบ แฉห…เซ็กซ์เอาแต่ใจ ..4 พฤติกรรมทำลายรักภารกิจแรก ว่าที่สะใภ้หลวง ไปได้สวยไม่เค…’ถอดรหัส12 นักษัตร’ วันที่ 28 ก.พ.-6 มี….มกุฎเดนมาร์ก ทรงปลื้ม เจ้าชายเจ้าหญิง คู่… สนามพระ ชี้มวยเด็ด กีฬาวันนี้ เหนือฟ้าใต้บาดาล Hotsport 7 วันรอบโลก สับรางวันอาทิตย์ ของว่างวันอาทิตย์ บุคคลในข่าว คัมภีร์จากแผ่นดิน วิเคราะห์การเมือง สโมสรนักสู้ การ์ตูนชัยราชวัตร กอล์ฟสแควร์ เรื่องนี้ต้องขยาย สี่แยกบันเทิง สังเวียนยานยนต์ ซูมซอกแซก

โพสท์ใน Uncategorized | ใส่ความเห็น

ที่มาของเขมรในวันนี้

ที่มาของเขมรในวันนี้ 2234 เกิดกรณีพิพาทย์ไทยฝรั่งเศสเกี่ยวกับลาว 2398 เกิดสนธิสัญญากับ จอร์น เบาริง ในรัชกาล4 2436 อังกฤษมีอิทธิพลเหนือจีนได้พม่า ทำไห้ฝรั่งเศสต้องลงใต้ อยู่ในรัชกาล5 11 กค 2436 ฝรั่งเศสยึดอ่าวไทย ด้วยเหตุผลจะขึ้นฝั่งฉลองวันชาติ (วันชาติฝรั่งเศสคือ14 กรกาคม) 3 ตค 2436 ยึดจันทบุรี 7 ตค 2445 เสียจำปาศักดิ์ มโนไพร เพื่อแลกกับจันทบุรี แต่มันไม่คืน 13 กพ 2446 กำหนดเขตแดนไทยกัมพูชา โดยใช้เขาบรรทัด และยกดินแดนฝั่งโขงตรงข้ามหลวง พระบางให้ฝรั่งเศสเช่าทำท่าเรือ 27 สค 2447 ถอนทหารออกจากจันทบุรี 23 มีนา 2449 ยกเสียมราฐ พระตะบอง ศรีโสภณ ให้ฝรั่งเศส แลกฝั่งซ้ายคืนรวมถึงตราด คนตราดจัดวันรำลึกการคืนสู่สยาม 23 มีนาคม ทุกปี เริ่มประกาศ 14 ธค 2514 และเกาะกงก็ทิ้งระยห่างแต่บัดนั้น 2483 สามสิบสามปีของการเสียเสียมราฐ สงครามโลกครั้งที่2ก่อตัว เกิดกรณีพิพาทย์ไทยฝรั่งเศส 8 ตค 2483 นักศึกษาเดินขบวนครั้งแรกในประวัติศาสตร์ โดยมหาลัยธรรมศาสตร์และการเมืองในขณะนั้นเป็นแกนนำ ในที่สุดเยอรมันได้ฝรั่งเศส เราขอความช่ายเหลือ เยอรมันยินดี แต่ญี่ปุ่นขอไกล่เกลี่ย ในวันที่25 มค ที่ไซง่อน อีกชุดที่โตเกียว 11 มีค 2484ฝรั่งเศสยอมไกล่เกลี่ย เกิดเขมรอิสระที่พระตะบองและเสียมราฐมีพระพิเศษพานิชเป็นหัวหน้า ปกกุณ/วิบูล ปกมนตรี/พระพิเศษพานิชเป็นคนคนเดียวกัน แต่งกับฉอ้อน อภัยวงศ์น้องสาวต่างมารดาของ ควง อภัยวงศ์ อดีตนายก และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (หายสงสัยแล้วใช่ไหม) 17 มีค 2484 รบกันที่เกาะช้าง และยอมไกล่เกลี่ยในอีก2เดือนต่อมา 2488 สงครามโลกสิ้นสุด เราเข้าเป็นสมาชิกสหประชาชาติ ฝรั่งเศสขอให้คืนดินแดนในอินโดจีนทั้งหมด ที่วอชิงตันดีซี ในวันที่17 พค 2489 แต่ญี่ปุ่นผู้แพ้สงครามในโชนนี้แทนที่จะคืนให้ไทยกลับปล่อยให้เป็นสูญญากาศไปเฉยๆ (ใครๆก็อยากได้บริเวณนี้ หลังจากนี้ท่านผู้อ่านจะเข้าใจ) ถือกำเนิด เขมรอิสระ อันหมายถึงคนไทยเกาะกง ที่มี ใส่ ภูทอง – จาเรียง ศิริวงศ์หรือกำนันเง้า -เตีย บัญหรือ สังวาลย์ เป็นผู้สร้างเขมรในวันนี้ 2472-2475 เขมรเสรีถือกำเนิด ก่อนสงครามโลกยุติ 10ปี จะเห็นว่าเขาทำอะไรเขาเตรียมการเป็น10ปี หรือเราลืมคนไทยในเกาะกงวันนี้เขาจึงยืนอยู่กับกัมพูชา และในการนั้นมีกองกำลังเวียดมินห์เป็นผู้ให้ความช่วยเหลือ 1 กพ 2491 ตั้งคณะกรรมการปลดปล่อยกัมพูชา ตอนนี้เราให้การสนับสนุนเขมรอิสระแล้ว มี ดาบ ฌวณ (ชวน เข็มเพชร) เป็นประธาน 5ใน11คนนิยมเวียดนาม มี2คนให้ความช่วยเหลือเวียดมินห์ คนหนึ่งเรียนธรรมศาสตร์ชื่อ ฬง เรธ อยู่ในกลุ่มคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ข้ามเข้าไปเป็นเบอร์2ของ พอล พต เปลี่ยนชื่อเป็น นวน เจีย ถูกจับตอนอายุ80ปี 19 กย 2550ใกล้ชายแดนไทย ส่วนดาบฌวณ เคยเป็นตำรวจที่พระตะบอง ชื่อไทยคือชวน เข็มเพชร 2491 ดาบฌวน เข้าสวามิภักดิ์ต่อสมเด็จพระนโรดม สีหนุในปี2502แต่ถูกจับได้ว่าลอบสังหารภายใต้แผนบางกอกจึงถูกฆ่าตาย โรงแรมสันติภาพในกัมพูชาที่จริงดาบฌวณเป็นเจ้าของ 17 เม ย 2493 เกิดสมาคมเขมรอิสระ 2494 แตกออกเป็น3พรรค 1พรรคคนงานเวียดนาม 2พรรคลาวอิสระ 3พรรคประชาชนปฏิวัติเขมร *ทั้ง3ส่วนใหญ่เป็นเวียดนาม 2495 ยึด1ใน6ของกัมพูชาได้ 9 พย 2496 สีหนุไปเจนีวา ทำให้พรรคประชาชนปฏิวัติเขมรเสียบทบาททางการเมืองในปีต่อมา*สหนุกวาดบ้าน ขณะเดียวกันเวียดนามใต้ชูนโยบายล้มศักดินา โดยให้การสนับสนุนพรรคประชาชนปฏิวัติเขมร *แต่ไม่ลอดสายตาสีหนุ กวาดเรียบในปี2502 *จันทรังสีไปอยู่กับเขมรอิสระ 2500 สีหนุออกอุบายให้อภัยเขมรอิสระ ในปี2489แต่จาเรียง หรือจำเรียง สนิทวงศ์หรือกำนันเง้า รู้ทันไม่แสดงตัวและได้หลบหนี ปล่อยให้สีหนุตั้งคนใหม่ปกครองเกาะกงจนถถึง 2506กัมพูชาไม่ยอมให้คนไทยเกาะกงพูดไทย มีเงินไทย อ่านไทย ใครทำจะถูกเขียนป้ายแขวนคอและ ปรับ50เรียล บางคนยอมตายดีกว่าปฏิบัติตามกฏด้วยการดื่มยาพิษอย่างนางหล็องเป็นตัวอย่าง 2497-2513คือช่วงแห่งการช่วงชิงเขาพระวิหารโดยสีหนุ 6 ตค 2502 อ้างสิทธิต่อศาลโลก 15 มิย 2505ได้ตัวปราสาท โดยตัดสัมพันธ์กับไทยก่อน1ปี 2508สีหนุ เริ่มระแวงเขมรแดงในเกาะกง เพราะพบเอกสารไทย แต่กาลต่อมา ลน นล ทหารคู่ใจทำรัฐประหารเสียก่อน มูลเหตุแห่งการจัดตั้งพรรคคอมมิวนิสต์ 2470ภายต้การปกครองฝรั่งเศส ลาว เขมร เวียดนามคิดตรงกันและยกให้เวียดนามเป็นพี่ใหญ่ในการ ขับไล่ฝรั่งเศส2473 สามปีต่อมาจนถึง2488 จึงยุติบางคนไปอยู่เวียดนาม จาก2470ต่อมาถึง2498 สหนุสละราชสมบัติให้พระบิดา และลงเลือกตั้งในปี2498และ2501 แต่แพ้ *พระบิดาชื่อ พระบาทนโรดม สุรามริต *จันทรังสีอยู่กับเขมรอิสระตั้งแต่2500ช่วงสีหนุ กวาดบ้านก่อนเลือกตั้ง 30 กย 2503 เขมรอิสระประชุมลับกับนักเรียนกัมพูชาที่เรียนต่อในฝรั่งเศสช่วงสงครามโลกสิ้นสุด 2488 หนึ่งในนักเรียนนอกฝรั่งเศสคือพอล พต และเปลี่ยนชื่อ พรรคประชาชนปฏิวัติเขมร มาเป็น พรรคคนงานกัมพูชา ล้อกับพรรคคนงานเวียดนาม ซึ่งคนงานภาษาเขมรแปลว่ากรรมกร *ดังนั้นเขมรอิสระกับ พอล พต เขมรแดงหรือเขมร รูท ที่สีหนุตั้งให้คือ คนกลุ่มเดียวกัน 2506พอล พต เป็นเลขาพรรคคนงานกัมพูชาบวกกับกลุ่มปารีสตอนนี้คุมอำนาจได้แล้ว สีหนุรู้ว่าพอล พตเป็นเด็กของเวียดนามและพอล พตก็เป็นเขมรแดงหรือเขมรรูทที่ตัวเองระแวงอยู่ จึงตัดสัมพันธ์เวียดนามในปีนั้น เมื่อพอล พต กลับจากจีนและเวียดนามก็พร้อมแตกหักกับสีหนุ *สีหนุอยู่พรรคกรมปรอเจียจ็วน หรือกรมประชาชนตอนนั้น *2513 ลน นล ทำรัฐประหารในวันที่18 มี ค สีหนุลี้ภัย ตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น สิ่งที่คิดไว้เป็นจริง มีการฆ่าคอมมิวนิสต์เวียดนามครั้งใหญ่ในเขมร เพราะมีอเมริกาที่ก่อสงครามเวียดนามอยู่ตอนนั้นให้ท้ายและสนับสนุนอย่างลับๆ *เวียดนามใต้หัวใจไอ้กันก็หวังลึกๆที่จะได้เขมรอยู่ ลน นลเขมรดำ ซึ่งเคยอยู่กับสีหนุผู้ระแวงเขมรแดงอยู่แล้ว จึงจำใจต้องฆ่าและหักหลังสหายเวียดมินห์และหันมาคบไทย (คนไทยเกาะกงแม้สูญหายไปสัก5000ก็ไม่ทำให้เขมรเอียง ลน นล เคยพูด) 14 สค 2513 คนไทยเกาะกงยึดค่ายทหารโดยไม่เสียเลือดเนื้อ พวกเขาเคยช่วยเขมรสู้ฝรั่งเศส เช่น ใส่ ภูทอง *ประสิทธิ์ จิตศิลป์ *อุดร เขียวขจี จากเขมรอิสระมาเป็น พรรคคนงานเขมร และกลายมาเป็นพรรคคอมมิวนิสต์กัมพูชา ความขัดแย้งก็ก่อตัวขึ้น *จากหนังสือปกดำของ พอล พต เขมรแดง ตอนนี้ 2488-2497เริ่มระแวงเวียดนามกับฝรั่งเศสจะใช้แผนกลืนชาติ พูดง่ายๆสิ้นสุดสงครามโลกแต่ไม่สิ้นสุดสงครามภายใน 2518 *กรรมสนอง อเมริกาบวกเวียดนาม ก่อรัฐประหารล้มรัฐบาลกัมพูชา พอล พตเขมรแดงเชื่อไอ้กันหนุน คนไทยเกาะกงที่เคยช่วย ลน นล (เขมรดำ)ล้มสีหนุถูกเก็บเกือบหมดตั้งแต่ปี2517-2518 โดยหลอกให้ ไปประชุมหัวหน้าพรรคไทยชนชาติส่วนน้อยเขตเกาะกงในวันที่3เม ย 2517 *พวกเขาไม่ได้กลับมาอีกเลย และคนไทยเกาะกงเรียกฝ่ายตรงข้ามว่าเขมรดำเพราะมันใส่ชุดดำมาปกครองเรา *เตียบัญ ใส่ ภูทอง ก็มารับช่วงต่อโดยมีพี่น้องจังหวัดตราดให้ความช่วยเหลือ ไม่ว่างานใดที่เขมรแดงไหว้วาน คนไทยเกาะกงไม่เคยทำพลาด หากปล่อยไว้จะเป็นหอกข้างแคร่ และช่วงนี้เองที่แยกไม่ออกว่าใครญาติดีกับใคร คือ2515-2518ก่อนไอ้กันจะช่วยเวียดนามทำเขมรแตก *เวียดนามช่วยลน นล ล้มสีหนุ แต่ตีตัวออกห่างในปี2516 เพราะคบไอ้กันแล้ว ลน นล นำเขมรย้ายกองบัญชาการจากกำปงศิลาไปไว้ที่เกาะกงในปี2517 ประสิทธิ์ จิตศิลป์ คือคนหนึ่งที่หายไปในปี2518 แล้วทุกอย่างก็อยู่ในมือ ลน นล ทิ้งไว้ก็แต่ เตีย บัญ กับใส่ ภูทอง ที่มีเลือดไทย *ลน นลเชมรดำ ฆ่าเพื่อนร่วมรบอย่างเขมรแดงรวมทั้งคนไทยเกาะกง และเลิกคบเวียดนามที่มีใจอเมริกัน และย้ายกองบัญชาการไปเกาะกงเพื่อไม่ให้คนไทยเกาะกงยืนขึ้นได้อีก ตอนนี้ทุกอย่างอยู่ในมือเขมรดำ ถึงตอนนี้เหลือใส่ ภูทองกับเตีย บัญ เตีย บัญเป็นรองนายก ใส่ ภูทองเป็นรัฐมนตรีกลาโหมในปี2522 *หรือทั้ง2คือCIAไทย *ปกดำของเขมรแดงระบุว่าไอ้กันช่วยทิ้งระเบิด ในนามเวียดนามใต้เพื่อช่วย ลน นลเขมรดำในปี2517ขับไล่ สีหนุได้พื้นที่60%ทำให้การทำรัฐประหารสีหนุครั้งนั้นสำเร็จ *พอล พต เขมรแดงมีจีนช่วยล้มสีหนุ *จีนช่วย พอล พต เขมรแดงเพราะถ้าชนะเขาก็ได้ด้วย *เวียดนาม + ไอ้กัน ช่วยเขมรดำ ลน นล ก็หวังที่จะได้กัมพูชาด้วย *ลน นล ระแวงเวียดนามบวกฝรั่งเศส จากที่เคยได้รับความช่วยเหลือจากเขา ตอนสีหนุเรืองอำนาจก็จำใจหักหลังเพื่อน ฮุนแซน มาตอนไหน 1เฮงสำริน ปฏิวัติภาคตะวันออก 2บู ทอง ปฏิวัติภาคอีสาน 3ภาคประชาชนโดยเวียดนามฝึกให้ตั้งแต่2497 4ฮุนฉซนกองกำลังใหม่ 5ใส่ ภูทอง กับเตีย บัญคนไทยเกาะกง*หรือเขาคือเรฟฟูจีตัวจริงที่ไทยลืม ห้ากลุ่มนี้ ประกาศกู้ชาติ 2 ธค 2521 ใช้ชื่อว่า แนวร่วมสามัคคีประชาชาติกู้ชาติกัมพูชา แผนมีดังนี้ 1 มค 2522 ปลดปล่อยกัมปงจาม จากปากฮุนแซน มีผูร่วมรบ20000คนแต่ไม่รู้จำนวนไอ้กัน 7 มค 2522 ก็ได้พนมเปญ เป็นอันสี้นสุดเขมรแดง แต่นี้ไปมีลน นล เขมรดำกุมชะตา *ได้ เฮงสำริน เป็นประธานฮุนแซน เป็นสมาชิกสภาปฏิวัติ รับผิดชอบฝ่ายต่างประเทศ *ปัจุบันเฮงสำรินเป็นประธานสภา ฮุนแซนเเป็นนายก ฮุนแซนคือ ทหารภาคตะวันออกของเขมรแดงเขาอายุ26ปี หมายความว่าอยู่กับพอล พต ตอนปี2517 แต่ตอน2520เขาไปทำงานให้เวียดนามก่อนเขมรแตก(หักหลังเพื่อนพอล พตเพราะพอล พตมีใจให้เวียดนาม) ต่อมาในปี2522 *แท้ที่จริงใครๆก็จะเอากัมพูชา แม้แต่ไทยในยุคน้าชาติ ทำให้รู้สึกถึงคำสาบของไชวรมัณ *ได้ชื่อใหม่เป็นสาธารณรัฐประชาชนกัมพูชาในปี2533 มีคนไทยเกาะกง อย่างใส่ ภูทอง และเตีย บัญ (สังวาลย์) และอีก12คนในกรมการเมืองช่วยออกแบบกัมพูชา *ยกให้ฮุนแซนเป็นนายกในปี2528 รองนายก คือเฮงสำริน *ฮุนแซนเป็นชาวกัมปงจาม เสียตาจากการรบช่วงนี้อยู่กับลน นลเขมรดำ ระหว่างเข้ายึดพนมเปญ หลังจากซุกตัวอยู่ในเวียดนาม 1ปี ก่อนทำเขมรแตก *กองกกำลังเวียดนามใต้ออกจากกัมพูชา26 กย 32 ส่งให้ยูเอ็น กพ 35-36 ตามข้อตกลงที่ปารีส ก็เข้าทางน้าชาติ เปลี่ยนสนามรบเป็นการค้าพอดี *ตอนนี้เขมรถูกออกแบบเป็น4ฝ่ายคือ 1เขมรแดง -เขียวสัมพันธ์ 2เขมรเสรี -ซอนซาน 3เขมรสีหนุ -สีหนุ 4เเขมรเฮงสำริน -มีเฮงสำริน+ฮุนแซน ทั้ง 4 มีสีหนุเป็นประธาน *2536 ฮุนแซน ครองตำแหน่งนายกร่วมกับสมเด็จกรมพระ นโรดม รณฤทธ์ ในรัฐบาลผสม *เป็นสมเด็จอัคร…..12 ตค 2550ภายใต้ วิสัยทัศน์ของ จาเรียง หรือ จำเรียง สนิทวงศ์ หรือกำนันเง้า และ ใส่ ภูทอง *เตีย บัญ เกิด 5 กย 2488ถูกจับไปยิงทิ้ง แต่ไม่ตาย ในช่วงเขมรดำ ลน นล ยังอยู่กับสีหนุ แม่ชื่อหนู เพ่งจินดา พ่อชื่อเตีย มีความสัมพันธ์กับ บิ๊คจิ๋ว-สุรยุทธ์ พลเอก วิชิต ยาทิพย์(ศปก.ทบ.ส่วนโครงการ 315 หรือหน่วย 315 ถูกยุบไปในปี2541ตอนสุรยุทธ์เป็นผบทบ.) “จากหนังคนสองแผ่นดิน ที่ครั้งหนึ่งมีโอกาสสัมภาทย์ พอล พต และฮุนแซน”

โพสท์ใน Uncategorized | ใส่ความเห็น

สรุปคำวินิจฉัยยึดทรัพย์ทักษิณ4.6หมื่นล้าน

สรุปคำวินิจฉัยยึดทรัพย์ทักษิณ4.6หมื่นล้าน


องค์คณะผู้พิพากษา ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองวินิจฉัยคดียึดทรัพย์พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี 7.6 หมื่นล้านบาท ดังนี้ 

คำวินิจฉัยยึดทรัพย์ทักษิณ.jpg
ประเด็นข้อกฎหมาย

1.วินิจฉัย ศาลมีอำนาจพิจารณาคดี

วินิจฉัยในประเด็นแรก คือ ศาลมีอำนาจในการพิจารณาคดีนี้ ตามที่ผู้คัดค้านคัดค้านหรือไม่ โดยวินิจฉัยว่า การตรวจสอบของ คตส.เป็นไปตามกฎหมาย และเป็นไปตามอำนาจของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ ตามมาตรา 9 (1) และ (4) แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เป็นมติเอกฉันท์

มติเอกฉันท์

2.วินิจฉัย คตส.มีอำนาจตรวจสอบโดยชอบ

ประเด็นวินิจฉัยต่อมา คตส.มีอำนาจถูกต้องตามกฏหมายหรือไม่ ศาลวินิจฉัยว่า เป็นการดำเนินการภายใต้ขอบอำนาจตามประกาศ คปค.ฉบับที่ 30 ส่วนที่ คตส.แต่งตั้งอนุ คตส.นั้น เห็นว่า คตส.ใช้อำนาจตามประกาศ คปค. สามารถแต่งตั้งได้ และไม่ล่วงเลยระยะเวลาตามที่ผู้คัดค้าน ทำการคัดค้าน เพราะมีกรอบเวลาชัดเจน หากไม่เสร็จสิ้นต้องให้ ป.ป.ช.ดำเนินการต่อ ทั้งหมดเป็นการดำเนินการโดยชอบด้วยกฏหมาย รวมทั้งประเด็นที่คตส.บางคน เช่นนายกล้านรงค์ จันทิก นายบรรเจิด สิงคะเนติ และนายแก้วสรร อติโพธิ เป็นปฏิปักษ์ของผู้ถูกร้อง แต่งตั้งเป็นประธานอนุฯ คตส.นั้น ชอบแล้วด้วยกฎหมาย และ ป.ป.ช.จึงมีอำนาจดำเนินการแทน คตส.ได้ก็ชอบแล้วด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ คดีนี้ไม่เกี่ยวกับคดีอาญา แต่เป็นคดีแพ่ง จึงไม่จำเป็นต้องให้ผู้ถูกกล่าวหามา ศาลมีมติเอกฉันท์ ผู้ร้องมีอำนาจยื่นคำร้องคดีนี้
มติเอกฉันท์

3.วินิจฉัย คำร้องของอัยการไม่เคลือบคลุม

วินิจฉัย คำร้องที่ให้ยึดทรัพย์พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จำนวน 76,621,603,061.05 บาท ของอัยการสูงสุดในฐานะผู้ร้อง แจ้งชัดและไม่เคลือบคลุม

มติเอกฉันท์

ประเด็นข้อเท็จจริง

1. ปกปิดอำพรางหุ้น โดยผ่านนอมินี

ประเด็นวินิจฉัยผู้ถูกกล่าวหาปกปิดอำพรางหุ้นหรือไม่ วินิจฉัยว่า ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 2 วาระ ยังถือหุ้นไว้ แต่ปี 2549 รวบรวมหุ้นทั้งหมดขายให้เทมาเส็ก โดยมีการโอนหุ้นให้กับผู้คัดค้านหลายคนจริง ผู้ถูกกล่าวหาแม้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในปี 2544 แล้ว ผู้ถูกกล่าวหามีอำนาจดำเนินนโยบายและแต่งตั้งกรรมการในบริษัทชินคอร์ปจริง การควบคุมนโยบายของผู้ถูกกล่าวหาผ่านทางคณะกรรมการบริษัทชินคอร์ปจริง มีมติเป็นเอกฉันท์ ผู้ถูกกล่าวหา และผู้คัดค้านที่ 1 มีหุ้นในเทมาเส็กจริง

การขายหุ้นให้พี่น้องมีพิรุธ ไม่มีใครจ่ายเป็นเงิน ทั้งที่จริงๆ มีเงินจ่ายได้ แต่กลับจ่ายเป็นตั๋วสัญญา อีกทั้งยังเป็นผู้รับเงินปันผลตามบัญชีบ.แอมเพิลริช ที่มีเงินปันผลเข้าบัญชีระหว่างปี2546-2548 จำนวน 1,000 ล้านบาท ศาลจึงมีมติเอกฉันท์ว่าผู้ถูกกล่าวหาและผู้คัดค้านที่ 1 ถือหุ้นใหญ่กว่า 1,400 ล้านหุ้นของบ.ชินคอร์ป ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งทั้งสองสมัย

มติเอกฉันท์

2.การแปลงสัญญาสัมปทานฯ เอื้อประโยชน์ชินคอร์ป

วินิจฉัยว่า เป็นการเอื้อประโยชน์ชินคอร์ป และเป็นเหตุให้ชาติเสียหาย เพราะภาษีสรรพสามิตหายไป 6 หมื่นล้านเศษ มีมติด้วยเสียงข้างมาก ผู้ถูกกล่าวหา ใช้ตำแหน่งหน้าที่ ตราพ.ร.บ.ทั้ง 2 ฉบับ ทำให้ชาติเสียหาย

มติเสียงข้างมาก

โพสท์ใน Uncategorized | ใส่ความเห็น